เครดิตบูโรเปรียบเสมือนประวัติการเงินของเรา หากเราเคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เราติดเครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลให้การขอสินเชื่อต่างๆ ในอนาคตเป็นเรื่องยาก สำหรับผู้ที่ติดเครดิตบูโร หลายคนอาจสงสัยว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าจะหลุดจากเครดิตเสีย และมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้ดึงตัวเองกลับมาได้ บทความนี้จะให้คำตอบเกี่ยวกับคำถามดังกล่าว พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าข้อมูลเครดิตในเครดิตบูโรจะ คงอยู่เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ชำระหนี้ล่าสุด ซึ่งหมายความว่า หากเราติดเครดิตบูโรด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น ผิดนัดชำระหนี้อัตรายบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล เมื่อเราชำระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดแล้ว ข้อมูลเครดิตจะยังคงอยู่ในระบบเครดิตบูโรต่อไปอีก 3 ปี หลังจากนั้นข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบออกจากระบบโดยอัตโนมัติ
เมื่อทราบระยะเวลาที่ข้อมูลเครดิตจะคงอยู่ในระบบเครดิตบูโรแล้ว ต่อไปเราจะมาดูวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถดึงตัวเองให้พ้นจากเครดิตเสียได้
สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อติดเครดิตบูโรคือการชำระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดให้ครบถ้วน เนื่องจากการชำระหนี้ล่าช้าจะยิ่งทำให้สถานะเครดิตของเราย่ำแย่ลงไปอีก นอกจากนี้ การชำระหนี้ตรงเวลายังช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดีในอนาคตได้อีกด้วย
หากเรามีหนี้สินจำนวนมากจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันเวลา เราสามารถติดต่อธนาคารหรือเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ การปรับโครงสร้างหนี้จะช่วยลดภาระหนี้และทำให้เรามีโอกาสที่จะชำระหนี้ได้ทันเวลา
ในกรณีที่เราไม่สามารถชำระหนี้ได้ด้วยตนเอง เราสามารถติดต่อกับธนาคารหรือเจ้าหนี้เพื่อขอไกล่เกลี่ยหนี้ได้ การไกล่เกลี่ยหนี้จะช่วยให้เราสามารถต่อรองกับเจ้าหนี้เพื่อหาข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ เช่น การลดหย่อนดอกเบี้ยหรือการยืดระยะเวลาการชำระหนี้
เราสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง เพื่อดูว่าข้อมูลเครดิตของเราถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หากพบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เราสามารถยื่นคำร้องเพื่อขอแก้ไขข้อมูลกับเครดิตบูโรได้
หลังจากที่เราชำระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดแล้ว เราควรสร้างประวัติเครดิตที่ดีโดยการชำระหนี้ตรงเวลาทุกครั้ง นอกจากนี้ การใช้บริการทางการเงิน เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างมีวินัย ก็จะช่วยสร้างเครดิตที่ดีได้เช่นกัน
การติดเครดิตบูโรมีผลกระทบต่อชีวิตทางการเงินของเราหลายด้าน ดังนั้น การหลุดจากเครดิตเสียจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรให้ความสำคัญ เนื่องจากมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
ในการดึงตัวเองให้พ้นจากเครดิตเสีย มีข้อผิดพลาดบางประการที่เราควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
ไม่ ข้อมูลเครดิตบูโรจะคงอยู่เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ชำระหนี้ล่าสุด
ไม่ สามารถลบข้อมูลเครดิตเสียออกจากระบบเครดิตบูโรได้ แต่ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบออกจากระบบโดยอัตโนมัติภายใน 3 ปี
การติดเครดิตบูโรจะทำให้เรามีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อลดลงและอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ชำระหนี้ตรงเวลาทุกครั้ง ใช้บริการทางการเงินอย่างมีวินัย และตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
หากเราไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลาหรือมีประวัติเครดิตที่ย่ำแย่ เราควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักวางแผนการเงิน หรือที่ปรึกษาเครดิต เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา
การติดเครดิตบูโรอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตทางการเงินของเรา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะหลุดพ้นไม่ได้ หากเราเข้าใจระยะเวลาที่ข้อมูลเครดิตจะคงอยู่ในระบบเครดิตบูโร และปฏิบัติตามวิธีการข้างต้นอย่างมีวินัย เราจะสามารถดึงตัวเองให้พ้นจากเครดิตเสียและสร้างประวัติเครดิตที่ดีได้ในอนาคต
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-07 21:01:55 UTC
2024-09-07 21:02:17 UTC
2024-10-19 01:33:05 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:01 UTC
2024-10-19 01:33:00 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC