กั้ง เป็นอาหารทะเลที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก จึงเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม กั้งเป็นอาหารทะเลที่มีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องกินกั้งอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
ในบทความนี้ เราจะมาแบ่งปันเคล็ดลับการกินกั้งอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด รวมถึงวิธีการเลือกซื้อกั้ง วิธีการปรุงกั้ง และวิธีการกินกั้งให้ได้รสชาติที่อร่อยที่สุด
1. เลือกกั้งที่มีชีวิต
กั้งที่มีชีวิตจะมีเนื้อที่แน่นและสดกว่ากั้งที่ตายแล้ว
2. เลือกกั้งที่มีขนาดใหญ่
กั้งที่มีขนาดใหญ่จะมีเนื้อมากกว่ากั้งที่มีขนาดเล็ก
3. เลือกกั้งที่มีสีสันสดใส
กั้งที่มีสีสันสดใสแสดงว่าเป็นกั้งที่สดใหม่
1. นึ่งกั้ง
วิธีการนึ่งกั้งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและทำให้กั้งสุกได้อย่างรวดเร็ว
2. ต้มกั้ง
วิธีการต้มกั้งเป็นวิธีที่ทำให้กั้งสุกได้ทั่วถึง
3. ผัดกั้ง
วิธีการผัดกั้งเป็นวิธีที่ทำให้กั้งมีรสชาติที่เข้มข้น
1. แกะกั้ง
วิธีการแกะกั้งที่ง่ายที่สุดคือการใช้กรรไกรตัดเปลือกกั้งออก
2. แกะเนื้อกั้ง
เนื้อกั้งสามารถแกะออกมาได้โดยใช้ส้อมหรือมีด
3. จิ้มน้ำจิ้ม
น้ำจิ้มสำหรับกินกั้งสามารถทำได้หลากหลายสูตร เช่น น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มพริกขี้หนู
1. กินกั้งกับผัก
การกินกั้งกับผักจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและทำให้รู้สึกอิ่มท้องมากขึ้น
2. กินกั้งกับข้าว
การกินกั้งกับข้าวจะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องมากขึ้น
3. กินกั้งเป็นอาหารว่าง
การกินกั้งเป็นอาหารว่างจะช่วยให้อิ่มท้องได้ในระหว่างมื้ออาหาร
1. มีโปรตีนสูง
กั้งมีโปรตีนสูงถึง 20 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
2. มีวิตามินและแร่ธาตุสูง
กั้งมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น วิตามิน B12 วิตามิน C แคลเซียม และเหล็ก ซึ่งช่วยในการทำงานของร่างกายต่างๆ
3. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
กั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจากความเสียหาย
สารอาหาร | ปริมาณต่อ 100 กรัม |
---|---|
พลังงาน | 100 กิโลแคลอรี |
โปรตีน | 20 กรัม |
ไขมัน | 1 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 0 กรัม |
วิตามิน B12 | 2.4 ไมโครกรัม |
วิตามิน C | 12 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 100 มิลลิกรัม |
เหล็ก | 2 มิลลิกรัม |
สูตรที่ 1 น้ำจิ้มซีฟู้ด
ส่วนผสม | ปริมาณ |
---|---|
น้ำมะนาว | 1/2 ถ้วยตวง |
น้ำปลา | 1/4 ถ้วยตวง |
น้ำตาลทราย | 1/4 ถ้วยตวง |
พริกขี้หนูสับ | 1-2 เม็ด |
กระเทียมสับ | 2 กลีบ |
สูตรที่ 2 น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว
ส่วนผสม | ปริมาณ |
---|---|
เต้าเจี้ยว | 1/2 ถ้วยตวง |
น้ำตาลทราย | 1/4 ถ้วยตวง |
น้ำส้มสายชู | 1/4 ถ้วยตวง |
พริกขี้หนูสับ | 1-2 เม็ด |
กระเทียมสับ | 2 กลีบ |
สูตรที่ 3 น้ำจิ้มพริกขี้หนู
ส่วนผสม | ปริมาณ |
---|---|
พริกขี้หนูสับ | 1 ถ้วยตวง |
น้ำปลา | 1/4 ถ้วยตวง |
น้ำตาลทราย | 1/4 ถ้วยตวง |
น้ำมะนาว | 1/4 ถ้วยตวง |
1. ล้างกั้งให้สะอาด
2. แกะกั้ง
3. แกะเนื้อกั้ง
4. จิ้มน้ำจิ้ม
5. รับประทาน
1. กินกั้งได้ทุกวันไหม
ไม่ควรกินกั้งทุกวัน เพราะกั้งมีสารปรอทสูง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
2. เด็กกินกั้งได้ไหม
เด็กสามารถกินกั้งได้ แต่ควรให้กินในปริมาณที่น้อย
3. กั้งมีสารก่อภูมิแพ้หรือไม่
กั้งมีสารก่อภูมิแพ้ จึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน
การกินกั้งเป็นวิธีที่ดีในการได้รับสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่อร่อยและมีรสชาติที่ถูกปากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม กั้งเป็นอาหารทะเลที่มีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องกินกั้งอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-06 11:45:24 UTC
2024-09-06 11:45:53 UTC
2024-09-06 00:47:16 UTC
2024-09-06 00:47:42 UTC
2024-09-04 13:27:30 UTC
2024-09-04 13:27:52 UTC
2024-09-05 22:19:05 UTC
2024-09-05 22:19:31 UTC
2024-10-19 01:33:05 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:01 UTC
2024-10-19 01:33:00 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC