น้ำตาลโตนดถือเป็นภูมิปัญญาไทยอันล้ำค่าที่สืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน โดยน้ำตาลชนิดนี้มีรสชาติหวานละมุนเป็นเอกลักษณ์ และยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย
น้ำตาลโตนดสกัดมาจากช่อดอกของต้นตาลโตนด ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกระบวนการสกัดเริ่มจากการตัดช่อดอกแล้วนำมาเคี่ยวในภาชนะที่เรียกว่า "กระทะ" จนกระทั่งได้น้ำตาลข้นเหนียวสีเหลืองน้ำตาล จากนั้นจึงนำไปกรองเพื่อแยกเอาสิ่งเจือปนออก และนำไปเคี่ยวต่อจนได้น้ำตาลโตนดสำเร็จรูป
น้ำตาลโตนดอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่
นอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว น้ำตาลโตนดแล้วยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย เช่น
ปัจจุบัน น้ำตาลโตนดกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ และมองหาวิธีการบริโภคที่ไม่ทำลายสุขภาพ น้ำตาลโตนดจึงกลายมาเป็นตัวเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะ โดยไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพ
แม้ว่าน้ำตาลโตนดจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำตาลที่สูงอยู่ โดยไม่ควรบริโภคเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน
สารอาหาร | น้ำตาลโตนด | น้ำตาลทรายขาว |
---|---|---|
พลังงาน (แคลอรี่) | 250 | 387 |
คาร์โบไฮเดรต | 61 กรัม | 99 กรัม |
น้ำตาล | 56 กรัม | 100 กรัม |
โพแทสเซียม | 225 มิลลิกรัม | 2 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม | 10 มิลลิกรัม | 0 มิลลิกรัม |
ธาตุเหล็ก | 3 มิลลิกรัม | 0 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 1 | 0.1 มิลลิกรัม | 0 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 2 | 0.1 มิลลิกรัม | 0 มิลลิกรัม |
สารอาหาร | น้ำตาลโตนด | น้ำผึ้ง |
---|---|---|
พลังงาน (แคลอรี่) | 250 | 300 |
คาร์โบไฮเดรต | 61 กรัม | 81 กรัม |
น้ำตาล | 56 กรัม | 76 กรัม |
โพแทสเซียม | 225 มิลลิกรัม | 49 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม | 10 มิลลิกรัม | 2 มิลลิกรัม |
ธาตุเหล็ก | 3 มิลลิกรัม | 1 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 1 | 0.1 มิลลิกรัม | 0.1 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 2 | 0.1 มิลลิกรัม | 0.1 มิลลิกรัม |
อาหาร | ดัชนีน้ำตาล (GI) |
---|---|
น้ำตาลโตนด | 54 |
น้ำตาลทรายขาว | 63 |
น้ำผึ้ง | 55 |
กล้วยหอม | 51 |
ข้าวขาว | 73 |
เรื่องที่ 1:
ครั้งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งเดินทางไปยังหมู่บ้านที่ห่างไกล และได้ลิ้มลองน้ำตาลโตนดเป็นครั้งแรก ชายคนนั้นรู้สึกประทับใจในรสชาติหวานละมุนมาก จนถึงกับอุทานออกมาว่า "น้ำตาลอะไรหนอ หวานจนน้ำลายไหล" ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็หัวเราะกันยกใหญ่ เนื่องจากไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนชมน้ำตาลโตนดในลักษณะนี้
เรื่องที่ 2:
มีคุณป้าคนหนึ่งเป็นเบาหวาน แต่ก็ยังชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจ คุณป้าจึงหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้สามารถทานของหวานได้ โดยไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากเกินไป วันหนึ่ง คุณป้าได้ทดลองใช้ น้ำตาลโตนด แทนที่น้ำตาลทรายขาวในการทำขนม เมื่อทานแล้ว คุณป้าก็พบว่าขนมมีความหวานละมุนเหมือนเดิม แต่ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าเดิม คุณป้าจึงดีใจเป็นอย่างมาก และบอกกับเพื่อนๆ ว่า นี่คือวิธีการที่ทำให้เธอสามารถทานของหวานได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องกังวล
เรื่องที่ 3:
มีเด็กหญิงคนหนึ่งไปเที่ยวบ้านคุณยายในชนบท และได้เห็นคุณยายเคี่ยวน้ำตาลโตนด เด็กหญิงรู้สึกอยากรู้มาก จึงถามคุณยายว่า "คุณยาย ทำน้ำตาลอย่างไรให้มันหวานอย่างนี้ได้คะ" คุณยายจึงตอบว่า "หลานเอ๋ย การทำน้ำตาลโตนดนั้นไม่ง่ายเลย ต้องอาศัยความอดทนและประสบการณ์ เมื่อเราตัดดอกตาลโตนดมาแล้ว เราก็ต้องเคี่ยวน้ำตาลในกระทะด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนกระทั่งน้ำตาลข้นเหนียวและได้สีเหลืองน้ำตาล" เด็กหญิงฟังแล้วก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ และรู้สึกภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทย
1. น้ำตาลโตนดปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่
แม้ว่าน้ำตาลโตนดจะมีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าน้ำตาลทรายขาว แต่ก็ยังมีปริมาณน้ำตาลที่สูงอยู่ จึงไม่ควรบริโภคในปริมาณมาก ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภช
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-08 12:55:29 UTC
2024-09-08 12:55:57 UTC
2024-10-19 01:33:05 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:01 UTC
2024-10-19 01:33:00 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC