ลมเย็นฉ่ำ สุขภาพดี ค่าไฟลด เมื่อล้างแอร์ด้วยตัวเองด้วยน้ำยาล้างแอร์ที่เหมาะกับคุณ

แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยสร้างความเย็นและความสบายให้กับเราในสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย แต่แอร์ที่ใช้งานเป็นประจำมักเกิดการสะสมของฝุ่นละอองและคราบสกปรกที่แผงคอยล์เย็น ส่งผลให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ค่าไฟเพิ่มขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หวัด จาม ไอ หากไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

การล้างแอร์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตแอร์แนะนำให้ล้างแอร์ทุก 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความถี่ในการใช้งาน แต่หากใช้งานหนัก เช่น ในร้านอาหาร สำนักงาน หรือพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมาก อาจต้องล้างแอร์บ่อยขึ้น โดยสามารถสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาล้างแอร์ได้แล้ว ดังนี้

• ลมเย็นไม่เย็นจัดหรือเย็นช้าลง
• แอร์มีกลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นไหม้
• น้ำหยดจากตัวเครื่องแอร์
• ค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติ
• มีเสียงดังผิดปกติขณะแอร์ทำงาน

การล้างแอร์ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ไม่ยาก เพียงเตรียมน้ำยาล้างแอร์ที่เหมาะกับประเภทแอร์ของคุณ และทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เตรียมอุปกรณ์และน้ำยาล้างแอร์

• อุปกรณ์: ไขควง ชุดประแจ อ่างใส่น้ำ สเปรย์ฉีดน้ำ (ถ้ามี)
• น้ำยาล้างแอร์: เลือกน้ำยาล้างแอร์ที่เหมาะกับประเภทแอร์ของคุณ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ น้ำยาล้างแอร์แบบฟอง และน้ำยาล้างแอร์แบบน้ำ

2. ถอดฝาครอบและแผ่นกรองแอร์

• ปิดสวิตช์แอร์และถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบ
• ค่อยๆ ถอดฝาครอบด้านหน้าของแอร์ออก โดยสังเกตตำแหน่งของสกรูหรือคลิปล็อค
• ดึงแผ่นกรองแอร์ออกมาแล้วนำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือใช้เครื่องดูดฝุ่นดูด

3. ฉีดน้ำยาล้างแอร์

• เขย่าขวดน้ำยาล้างแอร์ก่อนใช้งาน
• สวมถุงมือและหน้ากากเพื่อป้องกันสารเคมีในน้ำยาล้างแอร์
• ฉีดน้ำยาล้างแอร์บริเวณแผงคอยล์เย็น ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเน้นจุดที่มีคราบสกปรกสะสม
• ทิ้งน้ำยาล้างแอร์ไว้ตามเวลาที่กำหนดในคำแนะนำบนฉลาก

4. ฉีดล้างน้ำเปล่า

• ใช้สเปรย์ฉีดน้ำเปล่าเพื่อล้างน้ำยาล้างแอร์ออกจากแผงคอยล์เย็น ฉีดจากด้านบนลงล่างจนน้ำไหลออกจากถาดรองน้ำทิ้ง
• หากไม่มีสเปรย์ฉีดน้ำ ให้ใช้สายยางต่อกับก๊อกน้ำแล้วฉีดน้ำเบาๆ โดยระวังไม่ให้ฉีดน้ำแรงเกินไปจนแผงคอยล์เย็นเสียหาย

5. ประกอบแอร์กลับคืน

• รอให้แผงคอยล์เย็นแห้งสนิท แล้วประกอบแผ่นกรองแอร์และฝาครอบกลับเข้าที่เดิม
• เสียบปลั๊กแอร์และเปิดสวิตช์เพื่อทดสอบการทำงาน

เคล็ดลับ:

• หากคราบสกปรกฝังแน่นมาก อาจต้องฉีดน้ำยาล้างแอร์ซ้ำ 2-3 ครั้ง และทิ้งน้ำยาล้างแอร์ไว้ประมาณ 15-20 นาทีเพื่อให้คราบสกปรกสลายตัว
• หากมีคราบราดำเกาะอยู่ที่แผงคอยล์เย็น ให้ผสมน้ำส้มสายชูขาวกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 แล้วฉีดพ่นทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า
• หากไม่มั่นใจหรือไม่สะดวกที่จะล้างแอร์ด้วยตัวเอง สามารถติดต่อบริษัทล้างแอร์มืออาชีพได้

ประโยชน์ของการล้างแอร์เป็นประจำ

การล้างแอร์เป็นประจำมีประโยชน์มากมาย ได้แก่

• ประหยัดค่าไฟ: แอร์ที่สะอาดจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยลดการกินไฟได้ถึง 30%
• อากาศเย็นฉ่ำ: แผงคอยล์เย็นที่สะอาดจะช่วยระบายความร้อนได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องเย็นฉ่ำสบายตัว
• สุขภาพดี: แอร์ที่สะอาดจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นละอองและเชื้อโรค ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ หวัด จาม ไอ
• ยืดอายุการใช้งานแอร์: การล้างแอร์เป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดสนิมและการเสื่อมสภาพของแอร์ ทำให้แอร์ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ตารางเปรียบเทียบบำรุงรักษาแอร์

ตารางเปรียบเทียบน้ำยาล้างแอร์แบบฟองและน้ำยาล้างแอร์แบบน้ำ

ตารางแสดงค่าใช้จ่ายในการล้างแอร์

สรุป

การล้างแอร์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ช่วยประหยัดค่าไฟ ทำให้อากาศเย็นฉ่ำ สุขภาพดี และยืดอายุการใช้งานแอร์ได้ยาวนานขึ้น สามารถล้างแอร์ด้วยตัวเองได้ไม่ยาก เพียงเตรียมน้ำยาล้างแอร์ที่เหมาะกับประเภทแอร์ของคุณและทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง หากไม่มั่นใจหรือไม่สะดวก สามารถติดต่อบริษัทล้างแอร์มืออาชีพได้