Position:home  

วันอาทิตย์สีแดง : แรงบันดาลใจแห่งความหวังใหม่


วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2557 เป็นวันที่คนไทยไม่มีวันลืม วันที่คนไทยทั้งแผ่นดินน้ำตานองหน้าหลังสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของคนทั้งชาติ ดังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้กล่าวว่า "เราเกิดมาเพื่อทำคุณประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น เมื่อใดที่เราไม่คิดถึงตนเอง เมื่อนั้นเราก็จะมีความรู้สึกรักชาติอย่างแท้จริง" พระองค์ได้ทรงเสียสละพระวรกายเพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอดรัชสมัยถึง 70 ปี จึงมิใช่เรื่องแปลกที่วันสุดท้ายแห่งรัชกาลเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย

อย่างไรก็ตาม ในความเศร้าโศกก็ยังมีความหวังและแรงบันดาลใจซ่อนอยู่ หลายคนเริ่มหันกลับมาทบทวนถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ และตั้งปณิธานจะสานต่อเจตนารมณ์ของพระองค์ให้เป็นจริง โดยมุ่งมั่นทำความดีเพื่อบ้านเมืองและแผ่นดินไทย

หนึ่งในโครงการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดหลังการเสด็จสวรรคตคือโครงการ "จิตอาสาพระราชทาน" ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการช่วยเหลือประชาชนที่ยากไร้และด้อยโอกาส โครงการนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำความดีเพื่อสังคม โดยไม่จำกัดอายุ อาชีพ และศาสนา

ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน มีประชาชนเข้าร่วมโครงการจิตอาสาพระราชทานแล้วกว่า 10 ล้านคน และได้มีการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชน

ความสำเร็จของโครงการจิตอาสาพระราชทานนี้แสดงให้เห็นว่าแม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่พระราชปณิธานของพระองค์ยังคงอยู่ และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทั้งประเทศร่วมมือร่วมใจกันทำความดีเพื่อสังคมไทยต่อไป

นอกจากโครงการจิตอาสาพระราชทานแล้วยังมีโครงการอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งล้วนแต่มีจุดประสงค์เพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ทั้งสิ้น โครงการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังคงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และจะมุ่งมั่นทำความดีเพื่อตอบแทนพระองค์ตลอดไป

พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติเป็นระยะเวลานานถึง 70 ปี ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายที่ทรงอุทิศให้แก่ประชาชนชาวไทย ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข การเกษตร และการพัฒนาชนบท

ด้านการศึกษา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยทรงมีพระราชดำรัสว่า "การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ถ้าหากเราไม่มีการศึกษา เราก็จะไม่สามารถพัฒนาประเทศไปได้" พระองค์ทรงริเริ่มและสนับสนุนโครงการต่างๆ มากมายเพื่อส่งเสริมการศึกษาในประเทศไทย เช่น โครงการในพระราชดำริต่างๆ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน

ด้านสาธารณสุข

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้ความสำคัญกับการสาธารณสุขเป็นอย่างมาก โดยทรงมีพระราชดำรัสว่า "สุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง สุขภาพที่แข็งแรงจะช่วยให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การพัฒนาประเทศ" พระองค์ทรงริเริ่มและสนับสนุนโครงการต่างๆ มากมายเพื่อส่งเสริมการสาธารณสุขในประเทศไทย เช่น โรงพยาบาลศิริราช มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โครงการหมู่บ้านสุขภาพ และโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

ด้านการเกษตร

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้ความสำคัญกับการเกษตรเป็นอย่างมาก โดยทรงมีพระราชดำรัสว่า "เกษตรกรรมเป็นอาชีพที่มีความสำคัญอย่างมาก เป็นอาชีพที่ผลิตอาหารให้กับประชาชนทั้งประเทศ" พระองค์ทรงริเริ่มและสนับสนุนโครงการต่างๆ มากมายเพื่อส่งเสริมการเกษตรในประเทศไทย เช่น โครงการในพระราชดำริต่างๆ กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร และโครงการธนาคารต้นไม้

ด้านการพัฒนาชนบท

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบทเป็นอย่างมาก โดยทรงมีพระราชดำรัสว่า "การพัฒนาชนบทเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องพัฒนาชนบทให้มีความเจริญเท่าเทียมกับเมือง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี" พระองค์ทรงริเริ่มและสนับสนุนโครงการต่างๆ มากมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชนบทในประเทศไทย เช่น โครงการในพระราชดำริต่างๆ กรมการพัฒนาชุมชน และโครงการหมู่บ้านพัฒนาตนเอง

มรดกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้ให้กับประเทศไทยมากมาย นอกจากพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องต่างๆ ดังนี้

ความเสียสละ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเสียสละเพื่อประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด พระองค์ทรงทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ และไม่เคยทรงเห็นแก่พระองค์เอง พระองค์ทรงใช้ชีวิตอย่างสมถะและเรียบง่าย แม้พระองค์จะทรงเป็นกษัตริย์แห่งประเทศไทยก็ตาม

ความเมตตา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นกษัตริย์ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยทุกคน และทรงพยายามช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้และด้อยโอกาส พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักในพระราชดำรัสที่ว่า "เรามีแผ่นดินเดียวกัน" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย

ความอดทน

พระบาทสมเด็จพระป

Time:2024-09-06 08:29:37 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss