ติดแอร์ยี่ห้อไหนดี? คลายร้อน...สุดชิลไปกับแอร์แบรนด์ดัง
การติดแอร์ในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับบ้านหรืออาคารสำนักงานต่างๆ เพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวในเมืองไทยทำให้การใช้ชีวิตประจำวันทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น แต่การจะเลือก ติดแอร์ยี่ห้อไหนดี นั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรร บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกติดแอร์ยี่ห้อใดที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนติดแอร์
ก่อนตัดสินใจเลือกติดแอร์ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
-
พื้นที่ห้อง: ขนาดพื้นที่ห้องมีผลต่อขนาด BTU ของแอร์ที่ควรติดตั้ง หากติดแอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไปจะทำให้ห้องไม่เย็นเพียงพอ ส่วนแอร์ที่มี BTU สูงเกินไปก็จะทำให้เปลืองไฟ
-
ทิศทางห้อง: ทิศทางของห้องก็มีผลต่อการเลือกว่าจะต้องติดแอร์กี่ BTU โดยทั่วไปแล้วห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกจะได้รับแสงแดดมากที่สุด ทำให้ต้องใช้แอร์ที่มี BTU สูงกว่าห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้
-
ประเภทของแอร์: แอร์มีหลายประเภทให้เลือก เช่น แอร์ติดผนัง แอร์ตั้งพื้น แอร์แขวนฝ้า ฯลฯ ควรเลือกประเภทแอร์ที่เหมาะกับห้องมากที่สุด และพิจารณาเรื่องการติดตั้งและการดูแลรักษาด้วย
-
งบประมาณ: งบประมาณก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกติดแอร์ ควรตั้งงบประมาณไว้ก่อน แล้วค่อยเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับงบประมาณ
เปรียบเทียบแอร์แบรนด์ต่างๆ
ในตลาดมีแอร์หลากหลายยี่ห้อให้เลือก แต่ยี่ห้อที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศไทย ได้แก่
-
Daikin: เป็นแบรนด์แอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดระดับโลก มีจุดเด่นเรื่องความทนทาน ประหยัดพลังงาน และมีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน
-
Mitsubishi Electric: เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงจากประเทศญี่ปุ่น มีจุดเด่นเรื่องความเงียบ ประหยัดพลังงาน และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
-
Carrier: เป็นแบรนด์แอร์สัญชาติอเมริกันที่มีประสบการณ์ยาวนาน มีจุดเด่นเรื่องความทนทาน ประหยัดพลังงาน และมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง
-
Haier: เป็นแบรนด์แอร์จากประเทศจีนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีจุดเด่นเรื่องราคาประหยัด ประหยัดพลังงาน และมีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน
-
Samsung: เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีจุดเด่นเรื่องการออกแบบที่สวยงาม มีฟังก์ชันการทำงานที่ล้ำสมัย และมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง
ตารางเปรียบเทียบแอร์แบรนด์ต่างๆ
ยี่ห้อ |
จุดเด่น |
จุดด้อย |
Daikin |
ทนทาน ประหยัดพลังงาน ฟังก์ชันครบครัน |
ราคาสูง |
Mitsubishi Electric |
เงียบ ประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีทันสมัย |
ราคาสูง |
Carrier |
ทนทาน ประหยัดพลังงาน ระบบกรองอากาศดี |
ราคาสูง |
Haier |
ราคาประหยัด ประหยัดพลังงาน ฟังก์ชันครบครัน |
ความทนทานน้อยกว่า |
Samsung |
ออกแบบสวยงาม ฟังก์ชันล้ำสมัย ระบบกรองอากาศดี |
ราคาสูง |
วิธีการติดแอร์เอง
หากต้องการติดแอร์เอง สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือง่ายๆ ดังนี้
-
วางแผนการติดตั้ง: ก่อนอื่นต้องวางแผนการติดตั้งโดยพิจารณาขนาดห้อง ทิศทางห้อง และประเภทของแอร์ที่จะติด
-
เตรียมอุปกรณ์: เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ไขควง คีม ตลับเมตร ดินสอ และอุปกรณ์ติดตั้งอื่นๆ
-
ติดตั้งชุดคอยล์เย็น: ติดตั้งชุดคอยล์เย็นบนผนังห้องโดยใช้สกรูยึด
-
เจาะรูผนัง: เจาะรูผนังเพื่อเดินท่อน้ำยาแอร์โดยใช้สว่าน และตัดท่อน้ำยาให้ได้ขนาดตามความยาวที่ต้องการ
-
ติดตั้งชุดคอยล์ร้อน: ติดตั้งชุดคอยล์ร้อนบนผนังห้องหรือวางบนพื้นระเบียงโดยใช้สกรูยึด
-
เชื่อมต่อท่อน้ำยา: เชื่อมต่อท่อน้ำยาแอร์เข้ากับชุดคอยล์เย็นและชุดคอยล์ร้อนโดยใช้ประแจขันให้แน่น
-
เดินสายไฟ: เดินสายไฟจากชุดคอยล์เย็นไปยังชุดคอยล์ร้อนโดยใช้ท่อร้อยสายไฟ
-
ทดสอบการทำงาน: ทดสอบการทำงานของแอร์โดยเปิดเครื่องและปรับอุณหภูมิตามต้องการ
กลยุทธ์การเลือกติดแอร์ให้คุ้มค่า
นอกจากการพิจารณาปัจจัยต่างๆ แล้ว ยังมีกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้เลือกติดแอร์ได้คุ้มค่ามากขึ้น เช่น
-
เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้าน: ก่อนตัดสินใจเลือกติดแอร์ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้าน เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด
-
ตรวจสอบโปรโมชัน: บริษัทจำหน่ายแอร์หรือร้านค้าต่างๆ มักมีโปรโมชันหรือส่วนลดเป็นประจำ ควรตรวจสอบโปรโมชันเหล่านี้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
-
เลือกช่วงเวลาติดตั้งที่เหมาะสม: ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการติดแอร์คือช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก ทำให้ช่างติดแอร์ได้ง่ายขึ้น และมักมีโปรโมชันต่างๆ มากมาย
-
ติดตั้งแอร์ในช่วงเช้า: หากติดตั้งแอร์ในช่วงเช้า ช่างจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และไม่ต้องเร่งรีบ ทำให้การติดตั้งมีคุณภาพมากขึ้น
ข้อควรระวังในการติดแอร์
นอกจากปัจจัยต่างๆ และกลยุทธ์ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีข้อควรระวังต่างๆ ในการติดแอร์ ดังนี้
-
เลือกขนาดแอร์ให้เหมาะสม: หากติดแอร์ที่มีขนาดไม่เหมาะสม อาจทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไปและกินไฟมากขึ้น
-
ติดตั้งแอร์โดยช่างผู้ชำนาญ: ควรติดตั้งแอร์โดยช่างผู้ชำนาญ เพราะการติดตั้งที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้แอร์ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ หรือแม้กระทั่งเกิดอันตรายได้
-
ระวังเรื่องการเดินสายไฟ: ควรเดินสายไฟอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
-
หมั่นทำความสะอาดแอร์: ควรหมั่นทำความสะอาดแอร์เป็นประจำ เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
สรุป
การเลือกติดแอร์ยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมถึงความชอบส่วนบุคคล โดยยี่ห้อแอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทยได้แก่ Daikin, Mitsubishi Electric, Carrier, Haier และ Samsung ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดห้อง ทิศทางห้อง ประเภทของแอร์ และงบประมาณให้รอบคอบ และเลือกใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดและการติดตั้งที่มีคุณภาพ