ไหว้พระราหูเสริมโชคลาภ ปัดเป่าเคราะห์ ปี 2566 ณ วัดศีรษะทอง
ข้อมูลจำเพาะ
-
สถานที่: วัดศีรษะทอง เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
-
วันเวลาทำพิธี: วันพุธและวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
-
ค่าธรรมเนียม: ไม่กำหนด (ตามกำลังศรัทธา)
-
สิ่งของที่ควรนำมา: ธูป 9 ดอก เทียน 9 เล่ม ผลไม้ 9 อย่าง ดอกไม้ 9 สี น้ำเปล่า 9 ขวด
-
การเดินทาง: - รถยนต์ส่วนตัว: จากแยกบางขุนเทียน ขับตรงมาตามถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ประมาณ 13 กิโลเมตร วัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ - รถโดยสารประจำทาง: สาย 209, 210, 211, 509, 511 ลงที่ป้ายตลาดบางระมาด แล้วต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
ความสำคัญของการไหว้พระราหู
พระราหู คือ เทพเจ้าแห่งการกำจัดเคราะห์กรรมและอุปสรรคต่างๆ ตามความเชื่อโบราณ ระบุว่าการสักการะพระราหูเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างโชคลาภ ป้องกันภัยพิบัติ และช่วยให้ชีวิตราบรื่น
ประวัติวัดศีรษะทอง
วัดศีรษะทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีพระราหูเป็นพระประธานประจำวัด วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพระราหู โดยผู้คนทั่วสารทิศต่างเดินทางมาสักการะเพื่อขอพรและแก้ไขดวงชะตา
วิธีการไหว้พระราหู ณ วัดศีรษะทอง
-
จุดธูป 9 ดอก เทียน 9 เล่ม: คิดอธิษฐานขอพรจากพระราหู
-
ถวายผลไม้ 9 อย่าง: สื่อถึงการถวายสิ่งที่ดีๆ ให้แก่พระราหู
-
ถวายดอกไม้ 9 สี: สื่อถึงการบูชาด้วยสิ่งที่สวยงาม
-
ถวายน้ำเปล่า 9 ขวด: สื่อถึงการทำบุญถวายน้ำอันเป็นสิ่งจำเป็น
-
สวดมนต์บทไหว้พระราหู: ตั้งใจสวดมนต์เพื่อสื่อสารกับพระราหู
-
อธิษฐานขอพร: ตั้งจิตอธิษฐานขอพรที่ต้องการจากพระราหู
เคล็ดลับการอธิษฐานขอพร
-
ตั้งจิตให้แน่วแน่: ตั้งใจอธิษฐานด้วยความมั่นคงและเชื่อมั่น
-
ขอในสิ่งที่เหมาะสม: ขอพรในสิ่งที่เป็นไปได้และไม่เบียดเบียนผู้อื่น
-
อธิษฐานอย่างเจาะจง: กล่าวสิ่งที่ขออย่างชัดเจนเพื่อให้พระราหูรับรู้ความต้องการ
-
ตั้งใจทำความดี: หลังจากอธิษฐานแล้วหมั่นทำความดีและช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อห้ามในการไหว้พระราหู
-
ห้ามใส่เสื้อผ้าสีดำ หรือสีน้ำเงินเข้ม: เพราะเป็นสีที่พระราหูไม่ชอบ
-
ห้ามพูดจาหยาบคาย หรือไม่ให้เกียรติ: พระราหูเป็นเทพที่มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์
-
ห้ามนำของดิบ คาว มาถวาย: พระราหูโปรดปรานของหวานและผลไม้
-
ห้ามลืมถวายน้ำเปล่า: น้ำเปล่าเป็นสิ่งที่พระราหูโปรดปรานมากที่สุด
ตารางเวลาทำพิธีไหว้พระราหู
วันที่ |
เวลา |
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด |
วันที่ 18 มกราคม 2566 - วันที่ 17 มีนาคม 2566 |
15.00 น. - 18.00 น. |
300 คน |
วันที่ 19 มีนาคม 2566 - วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 |
15.00 น. - 18.00 น. |
400 คน |
วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 - วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 |
15.00 น. - 18.00 น. |
500 คน |
วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 - วันที่ 12 กันยายน 2566 |
15.00 น. - 18.00 น. |
600 คน |
วันที่ 13 กันยายน 2566 - วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 |
15.00 น. - 18.00 น. |
700 คน |
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 - วันที่ 8 มกราคม 2567 |
15.00 น. - 18.00 น. |
800 คน |
ตารางแสดงวันและจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีไหว้พระราหู
วัน |
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด |
วันพุธ |
300 คน |
วันเสาร์ |
400 คน |
ตารางแสดงรายการของที่ควรนำมาถวายพระราหู
รายการ |
จำนวน |
ธูป |
9 ดอก |
เทียน |
9 เล่ม |
ผลไม้ |
9 อย่าง |
ดอกไม้ |
9 สี |
น้ำเปล่า |
9 ขวด |
กลยุทธ์ในการไหว้พระราหูให้ได้ผล
-
เตรียมตัวล่วงหน้า: ตรวจสอบวันเวลาทำพิธีและเตรียมสิ่งของที่จำเป็น
-
แต่งกายให้สุภาพ: สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวหรือสีอ่อนที่สะอาดเรียบร้อย
-
ตั้งใจอธิษฐาน: ตั้งมั่นในสิ่งที่ขอและขอในสิ่งที่เหมาะสม
-
ทำบุญถวายสังฆทาน: เพื่อเป็นการทำบุญเสริมสร้างบุญบารมี
-
หมั่นทำความดี: หลังจากอธิษฐานแล้วหมั่นทำความดีและช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง
-
ไหว้พระราหูในวันและเวลาที่ไม่ถูกต้อง: ทำให้ไม่ได้รับผลตามที่หวัง
-
เตรียมสิ่งของไม่ครบถ้วน: ทำให้พิธีไม่สมบูรณ์
-
ไม่ตั้งใจอธิษฐาน: ทำให้พระราหูไม่รับรู้ถึงความต้องการ
-
ไม่ทำบุญเสริมสร้างบุญบารมี: ทำให้ผลที่ได้รับไม่ยั่งยืน
-
ไม่หมั่นทำความดี: ทำให้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพระราหู
ขั้นตอนการไหว้พระราหู ณ วัดศีรษะทอง
-
เตรียมตัว: เตรียมตัวล่วงหน้าและแต่งกายให้สุภาพ
-
เข้าวัด: กราบไหว้พระประธานและจุดธูปเทียนถวาย
-
เตรียมเครื่องสักการะ: เตรียมเครื่องสักการะตามที่กำหนด
-
ไหว้พระราหู: ไปที่ศาลพระราหูแล้วจุดธูปเทียนถวาย
-
ถวายของ: ถวายผลไม้ ดอกไม้ น้ำเปล่า และสิ่งของอื่นๆ
-
สวดมนต์: สวดมนต์บทไหว้พระราหู
-
อธิษฐานขอพร: อธิษฐานขอพรตามความตั้งใจ
-
ทำบุญ: ทำบุญถวายสังฆทานเพื่อเสริมสร้างบุญบารมี
-
กรวดน้ำ: กรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
ข้อดีและข้อเสียของการไหว้พระราหู
ข้อดี
- ช่วยปัดเป่าเคราะห์กรรมและอุปสรรคต่างๆ
- ช่วยเสริมสร้างโชคลาภและความสำเร็จ
- ช่วยปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย