Position:home  

ไม่ใส่หมวกกันน็อค ปรับเท่าไหร่? อย่าหาทำเด็ดขาด โทษหนักกว่าที่คิด!

บทนำ

การไม่สวมหมวกกันน็อคขณะขี่รถจักรยานยนต์ถือเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงอันตรายอย่างมาก ไม่เพียงแต่ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ขี่เอง แต่ยังส่งผลกระทบต่อผู้ร่วมทางและสังคมอีกด้วย ในปัจจุบัน กฎหมายได้กำหนดโทษปรับสำหรับผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคอย่างเข้มงวด โดยมีอัตราโทษปรับสูงถึง 2,000 บาท เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค ทราบโทษปรับที่ต้องจ่าย และหันมาสวมหมวกกันน็อคกันมากขึ้น

สถิติที่น่าตกใจ

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์กว่า 6,500 ราย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากอุบัติเหตุจราจร โดยในจำนวนดังกล่าว ผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคมีมากถึงร้อยละ 90 ชี้ให้เห็นว่าการไม่สวมหมวกกันน็อคเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์

โทษปรับสำหรับผู้ไม่ใส่หมวกกันน็อค

กฎหมายได้กำหนดโทษปรับสำหรับผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ดังนี้

ความผิด โทษปรับ
ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 2,000 บาท
ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 500 บาท

ประโยชน์ของการสวมหมวกกันน็อค

การสวมหมวกกันน็อคขณะขี่รถจักรยานยนต์มีประโยชน์มากมาย ดังนี้

ไม่ใส่หมวกกันน็อค ปรับเท่าไหร่ 2566

  • ลดความเสี่ยงการเสียชีวิต จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก พบว่าการสวมหมวกกันน็อคขณะขี่รถจักรยานยนต์ สามารถลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 40%
  • ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บสาหัส หมวกกันน็อคช่วยป้องกันศีรษะและหน้าจากการบาดเจ็บรุนแรง เช่น แตก, ฉีกขาด, เลือดคั่งในสมอง และการบาดเจ็บที่ดวงตา
  • ป้องกันแสงแดดและฝุ่นละออง หมวกกันน็อคช่วยปกป้องผิวหนังและเส้นผมจากแสงแดดและฝุ่นละออง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังและปัญหาสุขภาพอื่นๆ
  • เพิ่มการมองเห็น หมวกกันน็อคบางรุ่นมีช่องระบายอากาศและกระจกหน้าใส ช่วยให้ผู้ขี่มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเวลากลางคืนและเวลามีฝนตก

กลยุทธ์ในการส่งเสริมการสวมหมวกกันน็อค

เพื่อให้ทุกคนหันมาสวมหมวกกันน็อคขณะขี่รถจักรยานยนต์มากยิ่งขึ้น จำเป็นต้องมีการดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ ร่วมกัน ดังนี้

ไม่ใส่หมวกกันน็อค ปรับเท่าไหร่? อย่าหาทำเด็ดขาด โทษหนักกว่าที่คิด!

  • การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย โดยตั้งจุดตรวจ และเปรียบเทียบปรับผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคอย่างจริงจัง
  • การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ ต้องร่วมกันจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และจิตสำนึกให้กับประชาชนเกี่ยวกับอันตรายของการไม่สวมหมวกกันน็อค
  • การให้ความรู้และการอบรม สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดกิจกรรมให้ความรู้และการอบรมเกี่ยวกับการสวมหมวกกันน็อคที่ถูกวิธี เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และทักษะที่ถูกต้อง
  • การสนับสนุนด้านการเงิน ภาครัฐควรจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถซื้อหมวกกันน็อคมาใช้ได้ โดยอาจจัดในรูปแบบของการแจกฟรีหรือการอุดหนุนราคา
  • การมีส่วนร่วมของชุมชน ชุมชนต่างๆ ควรร่วมมือกันรณรงค์และส่งเสริมการสวมหมวกกันน็อค โดยอาจจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การตั้งจุดตรวจหมวกกันน็อค การแข่งขันวาดภาพระบายสี การประกวดออกแบบหมวกกันน็อค เป็นต้น

เคล็ดลับในการสวมหมวกกันน็อคที่ถูกวิธี

เพื่อให้หมวกกันน็อคมีประสิทธิผลสูงสุด ควรสวมใส่อย่างถูกวิธี ดังนี้

บทนำ

  • เลือกหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐาน มอก. และมีขนาดที่เหมาะสมกับศีรษะ
  • รัดสายรัดคางให้แน่นกระชับ แต่ไม่แน่นจนเกินไป
  • ปรับสายรัดด้านข้างให้แน่นพอดีกับใบหน้า
  • สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งขณะขี่รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย
  • เปลี่ยนหมวกกันน็อคใหม่ทุกๆ 3-5 ปี เพื่อให้หมวกกันน็อคยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการบาดเจ็บ

เรื่องราวแปลกๆ ที่สอนให้รู้จักสวมหมวกกันน็อค

มีเรื่องราวมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค เช่น

  • ชายหนุ่มคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อกับข้าว โดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อค ระหว่างทางมีนกบินมาโฉบหัวทำให้ตกใจและเสียหลักล้มลงศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง แต่โชคดีที่สวมหมวกกันน็อคไว้ ทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย而已。
  • หญิงสาวคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน โดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อค ระหว่างทางมีแมลงบินเข้าตาทำให้มองไม่เห็นและเสียหลักล้มลงศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง จนต้องเย็บหลายเข็ม แต่โชคดีที่สวมหมวกกันน็อคไว้ ทำให้ไม่บาดเจ็บสาหัส
  • ชายวัยกลางคนคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกที่โรงเรียน โดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อค ระหว่างทางมีรถยนต์ขับมาตัดหน้ากะทันหัน ทำให้ต้องเบรกอย่างแรงจนรถเสียหลักล้มลงศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง แต่โชคดีที่สวมหมวกกันน็อคไว้ ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

เรื่องราวเหล่านี้สอนให้รู้ว่า การสวมหมวกกันน็อคสามารถช่วยชีวิตเราได้ในยามคับขัน ดังนั้น จึงไม่ควรละเลยที่จะสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งขณะขี่รถจักรยานยนต์

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสวมหมวกกันน็อค

มีข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสวมหมวกกันน็อคที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่

  • สวมหมวกกันน็อคแบบผิดวิธี เช่น รัดสายรัดคางหลวมเกินไป
  • สวมหมวกกันน็อคที่ไม่เหมาะสม เช่น หมวกกันน็อคชำรุด สายรัดคางไม่แน่นหนา หรือมีขนาดไม่พอดีกับศีรษะ
  • ไม่สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งขณะขี่รถจักรยานยนต์ เช่น สวมเฉพาะขณะขับขี่บนถนนใหญ่ แต่ไม่สวมขณะขับขี่ในซอยหรือถนนเล็กๆ
  • คิดว่าไม่จำเป็นต้องสวมหมวกกันน็อคขณะซ้อนท้าย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะผู้ซ้อนท้ายก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน
  • **ใช้

newthai   

TOP 10
Don't miss