ตารางคะแนนไทย หรือ Thai STAR เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้สถานศึกษามุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีการศึกษา 2565 นี้ ตารางคะแนนไทยได้มีการปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน ครู และผู้ปกครอง
หัวใจสำคัญของการปรับปรุงตารางคะแนนไทย
การปรับปรุงตารางคะแนนไทยในครั้งนี้ ครอบคลุมถึงการปรับปรุงทั้งด้านตัวชี้วัด มาตรฐาน และเกณฑ์การประเมิน โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนใน 4 ด้านหลัก ได้แก่
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
จุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการปรับปรุงตารางคะแนนไทยในปีนี้ ได้แก่
ตารางคะแนนไทยแบบใหม่
ตารางคะแนนไทยแบบใหม่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มตัวชี้วัดหลัก ดังนี้
ตารางเปรียบเทียบตารางคะแนนไทยแบบเก่าและแบบใหม่
ตัวชี้วัด | ตารางคะแนนไทยแบบเก่า (ปีการศึกษา 2564) | ตารางคะแนนไทยแบบใหม่ (ปีการศึกษา 2565) |
---|---|---|
สมรรถนะของผู้เรียน | 50% | 60% |
การจัดการเรียนการสอน | 30% | 20% |
การบริหารสถานศึกษา | 15% | 15% |
การมีส่วนร่วมของชุมชน | 5% | 5% |
วิธีการประเมินตารางคะแนนไทย
ตารางคะแนนไทยจะประเมินโดยคณะกรรมการประเมินภายในของสถานศึกษา และตรวจสอบโดยคณะกรรมการประเมินภายนอกของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สถานศึกษาจะได้รับคะแนนในแต่ละตัวชี้วัด และคะแนนเฉลี่ยรวม
เกณฑ์การประเมินตารางคะแนนไทย
เกณฑ์การประเมินตารางคะแนนไทยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่
ประโยชน์ของการประเมินตารางคะแนนไทย
การประเมินตารางคะแนนไทยมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่
ตารางคะแนนไทย: ก้าวสำคัญสู่การพัฒนาการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน
การปรับปรุงตารางคะแนนไทยในปีนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ตารางคะแนนไทยแบบใหม่จะช่วยให้สถานศึกษาสามารถมุ่งเน้นในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ ตารางคะแนนไทยยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สถานศึกษาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายสามารถร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยได้อย่างยั่งยืน
ตารางคะแนนไทยสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนได้หลากหลายวิธี เช่น
สถานศึกษาสามารถวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองได้จากผลการประเมินตารางคะแนนไทย ข้อมูลนี้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนการพัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนได้
สถานศึกษาสามารถใช้ตารางคะแนนไทยเป็นพื้นฐานในการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในแต่ละด้านได้ โดยอาจมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาจุดอ่อนหรือเสริมสร้างจุดแข็งที่มีอยู่
สถานศึกษาสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสถานศึกษาอื่นๆ ที่มีผลการประเมินตารางคะแนนไทยที่ดี โดยอาจจัดกิจกรรมร่วมกัน เช่น การเยี่ยมชม การประชุม หรือการจัดการฝึกอบรม
สถานศึกษาควรติดตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ตารางคะแนนไทยเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของตนเอง
ตารางด้านล่างแสดงข้อมูลการประเมินตารางคะแนนไทยของโรงเรียนแห่งหนึ่งในปีการศึกษา 2565
กลุ่มตัวชี้วัด | คะแนนที่ได้รับ | คะแนนเกณฑ์ | ระดับ |
---|---|---|---|
คุณภาพผู้เรียน | 82% | 80-100% | ดีมาก |
คุณภาพการจัดการเรียนการสอน | 65% | 60-79% | ดี |
คุณภาพการบริหารสถานศึกษา | 55% | 40-59% | ปานกลาง |
คุณภาพการมีส่วนร่วมของชุมชน | 70% | 60-79% | ดี |
จากข้อมูลในตาราง โรงเรียนแห่งนี้มีจุดแข็งในด้านคุณภาพผู้เรียนและคุณภาพการมีส่วนร่วมของชุมชน แต่มีจุดอ่อนในด้านคุณภาพการบริหารสถานศึกษา ดังนั้น โรงเรียนจึงควรวางแผนการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในด้านนี้ให้เป็นลำดับแรก
เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-09 10:43:15 UTC
2024-09-09 10:43:43 UTC
2024-09-06 08:26:53 UTC
2024-09-06 08:27:11 UTC
2024-09-09 01:41:43 UTC
2024-09-09 01:42:05 UTC
2024-09-05 07:38:58 UTC
2024-09-05 07:39:26 UTC
2024-10-20 01:33:06 UTC
2024-10-20 01:33:05 UTC
2024-10-20 01:33:04 UTC
2024-10-20 01:33:02 UTC
2024-10-20 01:32:58 UTC
2024-10-20 01:32:58 UTC