ติดฟิล์มมือถือ ให้คุ้มค่าทุกการใช้งาน

การติดฟิล์มมือถือถือเป็นสิ่งจำเป็นที่หลายคนละเลย โดยจากข้อมูลของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า กว่า 80% ของประชากรไทยใช้โทรศัพท์มือถือ แต่มีเพียง 30% เท่านั้นที่ติดฟิล์มหน้าจอ ทั้งที่การติดฟิล์มช่วยปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน ฝุ่นละออง และแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการติดฟิล์มมือถือ

• ปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน รอยขีดข่วนที่เกิดจากการใช้งานทั่วไป เช่น การพกพาในกระเป๋าที่มีของอื่นๆ หรือการใช้งานกับของมีคม ฟิล์มหน้าจอจะช่วยเป็นเกราะป้องกันไม่ให้หน้าจอเกิดความเสียหาย
• ป้องกันการกระแทก ในกรณีที่โทรศัพท์มือถือตกหล่น ฟิล์มหน้าจอจะช่วยกระจายแรงกระแทกและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับหน้าจอ
• ลดการสะท้อนแสง ฟิล์มบางชนิดมีคุณสมบัติลดการสะท้อนแสง ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า
• ป้องกันเชื้อโรค ฟิล์มบางชนิดมีสารเคลือบที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
• เพิ่มมูลค่าของโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอที่ได้รับการปกป้องอย่างดีจะดูใหม่และมีมูลค่าสูงกว่าโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีฟิล์มหน้าจอ

ประเภทของฟิล์มมือถือ

ฟิล์มมือถือมีให้เลือกหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

วิธีการติดฟิล์มมือถือ

การติดฟิล์มมือถือไม่ใช่เรื่องยาก เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ก็สามารถติดฟิล์มได้อย่างเรียบเนียน:

1. เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ ฟิล์มมือถือ ผ้าเช็ดทำความสะอาด และบัตรแข็งหรือไม้บรรทัด
2. ทำความสะอาดหน้าจอ ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดเช็ดหน้าจอเพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกออกให้หมด
3. ลอกแผ่นป้องกัน ด้านหนึ่งของฟิล์มซึ่งมักจะมีแถบสีหรือฉลากระบุไว้
4. จัดแนวฟิล์ม วางฟิล์มลงบนหน้าจอ โดยจัดให้ขอบของฟิล์มตรงกับขอบหน้าจอ
5. รีดฟิล์ม ใช้บัตรแข็งหรือไม้บรรทัดรีดฟิล์มจากตรงกลางไปยังขอบเพื่อไล่ฟองอากาศออกให้หมด
6. ลอกแผ่นป้องกันอีกด้าน หลังจากรีดฟิล์มจนเรียบร้อยแล้ว จึงลอกแผ่นป้องกันด้านอีกด้านออก

กลยุทธ์ในการเลือกฟิล์มที่เหมาะสม

การเลือกฟิล์มมือถือใหเหมาะกับความต้องการของตนเองนั้นควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:

• ประเภทของโทรศัพท์มือถือ ขนาดและรูปทรงของหน้าจอโทรศัพท์มือถือมีผลต่อการเลือกฟิล์มที่เหมาะสม
• การใช้งาน หากใช้โทรศัพท์มือถือเป็นหลักในการเล่นเกมหรือชมวิดีโอ อาจต้องการฟิล์มที่ลดการสะท้อนแสง
• งบประมาณ ฟิล์มมือถือมีราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพันบาท เลือกฟิล์มที่เหมาะกับงบประมาณของตนเอง
• ความชอบส่วนตัว ฟิล์มมือถือมีทั้งแบบใส แบบด้าน และแบบมีลวดลาย เลือกฟิล์มที่ตนเองชอบและเหมาะกับสไตล์ของตนเอง

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง

เมื่อติดฟิล์มมือถือเอง อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ดังนี้:

• ไม่ทำความสะอาดหน้าจอ ก่อนติดฟิล์ม หากมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกบนหน้าจอ จะทำให้เกิดฟองอากาศใต้ฟิล์ม
• จับฟิล์มบริเวณด้านที่มีกาว การสัมผัสฟิล์มบริเวณที่มีกาวจะทำให้เกิดรอยนิ้วมือและทำให้กาวเสื่อมสภาพ
• ติดฟิล์มในที่มีลมแรง ลมแรงจะพัดพาฝุ่นละอองมาเกาะบนฟิล์มและทำให้เกิดฟองอากาศ
• ถอดแผ่นป้องกันออกก่อนติดฟิล์ม การถอดแผ่นป้องกันออกก่อนติดฟิล์มจะทำให้ฟิล์มมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนจากการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ
• ติดฟิล์มทับฟองอากาศ หากเกิดฟองอากาศใต้ฟิล์ม ควรยกฟิล์มขึ้นแล้วรีดไล่ฟองอากาศออกก่อน ไม่ควรติดฟิล์มทับฟองอากาศ

คำถามที่พบบ่อย

1. ติดฟิล์มมือถือแล้วทำให้หน้าจอหนาขึ้นมากหรือไม่

ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิล์ม ฟิล์มใสและฟิล์มด้านมีความหนาน้อยกว่าฟิล์มกระจกนิรภัย จึงไม่ทำให้หน้าจอหนาขึ้นมากนัก

2. การติดฟิล์มมือถือมีผลต่อการทัชสกรีนหรือไม่

การติดฟิล์มมือถือที่มีคุณภาพดีจะไม่ส่งผลต่อการทัชสกรีน แต่หากติดฟิล์มที่หนาเกินไปหรือมีฟองอากาศใต้ฟิล์ม อาจทำให้การทัชสกรีนไม่ลื่นไหล

3. ควรเปลี่ยนฟิล์มมือถือบ่อยแค่ไหน

อายุการใช้งานของฟิล์มมือถือโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากฟิล์มเริ่มมีรอยขีดข่วนหรือฟองอากาศ ควรเปลี่ยนฟิล์มใหม่เพื่อให้ได้การปกป้องหน้าจออย่างเต็มประสิทธิภาพ

สรุป

การติดฟิล์มมือถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการปกป้องหน้าจอของโทรศัพท์มือถือจากความเสียหายต่างๆ การเลือกฟิล์มที่เหมาะสมและติดฟิล์มอย่างถูกวิธีจะช่วยให้โทรศัพท์มือถือมีหน้าจอที่สวยงามและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเวลานาน