โบอิ้ง 777 คือเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างพิสัยไกลสองเครื่องยนต์ที่ผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดการบินระหว่างประเทศในช่วงกลางทศวรรษ 1990 เครื่องบินลำนี้เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน โดยมีการสั่งซื้อมากกว่า 1,600 ลำและส่งมอบมากกว่า 1,400 ลำจนถึงปัจจุบัน
การพัฒนาเครื่องบิน โบอิ้ง 777 เริ่มขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เพื่อตอบสนองความต้องการของสายการบินต่างๆ สำหรับเครื่องบินโดยสารที่มีขนาดใหญ่กว่า โบอิ้ง 767 แต่มีขนาดเล็กกว่า โบอิ้ง 747 เครื่องบินลำนี้ได้รับการออกแบบให้มีพิสัยการบินประมาณ 11,000 กิโลเมตร และสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 300 คน
ทีมออกแบบของโบอิ้งได้นำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในขณะนั้นมาใช้ในการออกแบบเครื่องบิน โบอิ้ง 777 ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมการบินด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบนำทางบนเครื่องบิน และเทคโนโลยีวัสดุคอมโพสิต เครื่องบินลำนี้ยังเป็นเครื่องบินโดยสารลำแรกที่ใช้เครื่องยนต์เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งมีประสิทธิภาพด้านเชื้อเพลิงที่สูงกว่าและการปล่อยมลพิษที่ต่ำกว่า
เครื่องบิน โบอิ้ง 777 มีหลายรุ่น ได้แก่
เครื่องบิน โบอิ้ง 777 มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ซึ่งรวมถึง:
เครื่องบิน โบอิ้ง 777 มีการใช้งานอย่างแพร่หลายโดยสายการบินทั่วโลก สายการบินต่างๆ ใช้เครื่องบินลำนี้ในเที่ยวบินระหว่างเมืองหลักๆ ในทวีปต่างๆ และสำหรับเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรและเที่ยวบินระหว่างประเทศ
เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ยังใช้ในภารกิจพิเศษ เช่น การขนส่ง VIP และการลำเลียงทางทหาร กองทัพอากาศสหรัฐฯ ใช้เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ในการลำเลียงประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
เครื่องบิน โบอิ้ง 777 เป็นเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูง สายการบินต่างๆ สามารถใช้เครื่องบินลำนี้เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มผลกำไร
ตามข้อมูลของโบอิ้ง เครื่องบิน โบอิ้ง 777 สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากถึง 20% เมื่อเทียบกับเครื่องบินโดยสารรุ่นก่อนๆ นอกจากนี้ เครื่องบินลำนี้ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า
เครื่องบิน โบอิ้ง 777 คาดว่าจะยังคงเป็นเครื่องบินโดยสารสำคัญในอีกหลายปีข้างหน้า สายการบินต่างๆ ทั่วโลกยังคงสั่งซื้อและรับมอบเครื่องบินรุ่นนี้
โบอิ้งยังคงพัฒนาเครื่องบิน โบอิ้ง 777 ต่อไป บริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวเครื่องบิน โบอิ้ง 777X ในปี 2023 เครื่องบินรุ่นใหม่นี้จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ และประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
ในปี 2001 เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ของสายการบินบริติชแอร์เวย์สกำลังบินจากลอนดอนไปยังซิดนีย์ เมื่อเครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดขัดข้อง ลูกเรือตัดสินใจบินต่อไปอีก 10 ชั่วโมงโดยใช้เครื่องยนต์เพียงตัวเดียว เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยในสิงคโปร์
ในปี 2006 เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์กำลังบินจากลอนดอนไปยังสิงคโปร์ เมื่อเครื่องบินถูกฟ้าผ่า ลูกเรือตัดสินใจบินต่อไปยังสิงคโปร์ โดยมีฟ้าผ่าอีก 2 ครั้ง เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยในสิงคโปร์
ในปี 2014 เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์กำลังบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังปักกิ่ง เมื่อเครื่องบินหายไปจากหน้าจอเรดาร์หลังจากบินออกจากกัวลาลัมเปอร์ได้เพียง 40 นาที ซากเครื่องบินยังไม่ถูกพบ จนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวเหล่านี้สอนให้เราทราบว่า:
รุ่น | ความยาว | ความกว้างปีก | ความสูง | น้ำหนักสูงสุดที่เครื่องขึ้นได้ | พิสัยการบิน | ความเร็วสูงสุด |
---|---|---|---|---|---|---|
โบอิ้ง 777-200 | 63.7 เมตร | 60.9 เมตร | 18.5 เมตร | 347,452 กิโลกรัม | 11,000 กิโลเมตร | 905 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
โบอิ้ง 777-200 |
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-07 00:45:54 UTC
2024-09-07 00:46:14 UTC
2024-09-05 11:23:51 UTC
2024-09-05 11:24:14 UTC
2024-09-07 19:53:46 UTC
2024-09-07 19:54:14 UTC
2024-09-04 23:34:10 UTC
2024-09-04 23:34:36 UTC
2024-10-20 01:33:06 UTC
2024-10-20 01:33:05 UTC
2024-10-20 01:33:04 UTC
2024-10-20 01:33:02 UTC
2024-10-20 01:32:58 UTC
2024-10-20 01:32:58 UTC